สนามบอลในไทย

สนามบอลในไทย

กีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำให้มีการสร้างสนามสำหรับแข่งกีฬาชนิดนี้ขึ้นอย่างแพร่หลาย สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานต่าง ๆ ขึ้น ทั้ง ขนาดสนามฟุตบอล การเขียนเส้นสนาม กติกาที่ใช้ หรือแม้แต่ความสว่างที่ใช้ในสนาม เพื่อให้ สนามฟุตบอล ที่ต้องใช้ในการแข่งขันจริง ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นทั้งในระหว่างที่ฝึกซ้อม และการแข่งขันจริง

ขนาดสนามฟุตบอล ตามแบบมาตรฐาน

ขนาดสนามฟุตบอล ตามแบบมาตรฐาน สำหรับผู้เล่นฝั่งละ 11 คน นั้น จะบังคับให้สนามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำหนดขนาดความยาวตั้งแต่ 90 – 120 เมตร และ ความกว้างตั้งแต่ 45 – 90 เมตร ขนาดพื้นที่โดยรวมมีขนาด 4,050 – 10,800 ตารางเมตร บนสนามจะมีเส้นสีขาว ที่ใช้กำหนดขอบเขตของสนามและจุดต่าง ๆ ของสนามไว้อยู่

ทั้งนี้ความแตกต่างของ สนามฟุตบอล แต่ละสนาม จะขึ้นอยู่กับการจุดประสงค์ว่าสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการรองรับการแข่งฟุตบอลประเภทใดเป็นหลัก โดยขนาดของสนามจะถูกแบ่งเป็น ขนาดสนามที่ใช้แข่งขันทั่วไป (ระดับท้องถิ่น) กำหนดให้มีขนาดความกว้าง อย่างน้อย 45 เมตร (50 หลา) แต่ไม่เกิน 90 เมตร (100 หลา) ความยาว อย่างน้อย 90 เมตร (100 หลา) แต่ไม่เกิน 120 เมตร (130 หลา) ขนาดสนามที่ใช้ในการแข่งระดับชาติ กำหนดให้มีขนาด ความกว้าง อย่างน้อย 45 เมตร (50 หลา) แต่ไม่เกิน 90 เมตร (100 หลา) ความยาว อย่างน้อย 100 เมตร (110 หลา) แต่ไม่เกิน 110 เมตร (120 หลา) 

ทั้งนี้ขนาดของสนามที่นิมยมใช้กันมากที่สุด และลีคฟุตบอลในหลายประเทศ บังคับใช้เป็นมาตรฐานของลีค จะอยู่ที่ ความกว้าง 68 เมตร (74 หลา) ต่อความยาว 105 เมตร (115 หลา) ส่วนสนามแข่งฟุตอลในประเทศไทย ไม่มีข้อบังคับตายตัว จึงใช้มาตรฐาน Max – Min ตามระเบียบของฟีฟ่า

พื้นผิวสิ่งสำคัญไม่แพ้ ขนาดสนามฟุตบอล

นอกจากเรื่องของ ขนาดสนามฟุตบอล ที่มีข้อกำหนดไว้เพราะเป็นสิ่งสำคัญหลักในการแข่ง พื้นผิวของสนามก็เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่ต้องคำนึงถึงในการสร้าง สนามฟุตบอล แต่ละแห่ง  โดยในปัจจุบัน พื้นผิวของสนามแข่งฟุตบอล ได้รับความนิยมหลัก ๆ อยู่ 2 ประเภท คือ สนามหญ้าจริง เป็นพื้นผิวที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬาได้ดีกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่พอสมควร ทั้งในเรื่องของการดูแลรักษา ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง เรื่องสภาพแวดล้อมบางอย่าง เช่น อากาศ หรือ ดิน ก็ส่งผลต่อการโตของต้นหญ้า และหากจะใช้หญ้าจริงในการทำพื้นสนาม จะต้องเป็นสนามแบบกลางแจ้งเท่านั้น 

และอีกแบบคือสนามหน้าเทียม ถูกผลิตขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ในเวลานั้นการนำหญ้าเทียมมาใช้ปูพื้นสนาม ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อนักกีฬาบ่อยครั้ง ทำให้ไม่เป็นที่นิมยม ทางผู้ผลิตหญ้าเทียมจึงพัฒนาให้มีความใกล้เคียงกับหญ้าจริงมากที่สุด เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น และในปัจจุบัน สนามหญ้าเทยมนิยมใช้กันมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่เป็นเขตหนาว เช่น ยุโรป เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษามากนัก และสภาพอากาศก็แทบไม่มีผลต่อสนามหญ้าเทียม

 

การเขียนเส้นบนสนาม

การเขียนเส้นบนสนาม เป็นอีกข้อหนึ่งที่มีการบังคับใช้อย่างเป็นมาตรฐานเหมือนกับ ขนาดสนามฟุตบอล การเขียนเส้นบนสนามนี้ หมายถึงการกำหนดขอบเขตในการแข่งขัน โดยแต่ละเส้นจะมีขนาดความกว้างไม่เกิน 5 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในสนาม ได้แก่

  • เส้นสนาม เส้นที่อยู่รอบสนาม เส้นยาว เรียกว่า เส้นข้าง ส่วน เส้นสั้น เรียกว่า เส้นประตู
  • เส้นแบ่งเขต จะแบ่งตามแนวขวาง เป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน แบ่งเขตระหว่างผู้แข่งขัน 2 ทีม
  • จุดกึ่งสนาม อยู่กึ่งกลางของเส้นแบ่งเขต มีเส้นวงกลมรัศมี 10 หลาเขียนรอบจุดไว้
  • เส้นประตู จุดเชื่อมตั้งแต่โคนเสาประตูฝั่งหนึ่ง ไปยังเสาประตูอีกฝั่งหนึ่ง
  • เขตประตู พื้นที่ที่ลากเส้นจากเสาประตูทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งฉากกับเส้นประตู ยาว 6 หลา แล้วเชื่อมด้วยเส้นตรง
  • เขตโทษ พื้นที่ที่ลากเส้นจากเสาประตูทั้ง 2 ฝั่ง ขนานกับเส้นประตู ยาว 16.5 เมตร แล้วลากเส้นตั้งฉากกับเส้นประตู ด้วยความยาวเท่ากับเส้นขนาน แล้วเชื่อมด้วยเส้นตรง
  • จุดโทษ อยู่ในเขตโทษ ห่างจากเสาประตู 12 หลา มีเส้นโค้งนอกเขตโทษ รัศมี 10 หลา จากจุดโทษ
  • ประตู มีระยะห่างระหว่างเสา 8 หลา คานสูงจากพื้น 8 ฟุต และติดตาข่ายรองรับลูกฟุตบอล
  • มุมธง อยู่ที่มุมสนาม ทั้ง 4 มุม มีรัศมี 1 หลา
  • เสาธง จุดกลางของมุมธง ใช้แสดงเขตในการเตะมุม ธงต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร อดไม่แหลม และผูกธงไว้ที่ยอด
  • เขตเปลี่ยนตัวผู้เล่น การเปลี่ยนตัวผู้เล่นทำได้ตลอดเวลา แต่ผู้เล่นที่ออกไปแล้วจะกลับมาแข่งใหม่ไม่ได้ และเปลี่ยนผู้เล่นได้ในบริเวณเขตเปลี่ยนตัว 5 เมตร คือบริเวณข้างสนาม ตรงหน้าที่นั่งของทีมเท่านั้น

เส้นของสนามและสัญลักษณ์ต่าง ๆ จะมีผลต่อการแข่งขัน ทำให้ไม่ว่า ขนาดสนามฟุตบอล เท่าไหร่ ก็จะต้องมีการเขียนเส้นที่กำหนดเอาไว้ โดยในเกมการแข่ง ข้อกติกาในการแข่งส่วนหนึ่ง จะอาศัยเส้นสนามเป็นตัวกำหนด  จะมีกรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้ตัดสิน ทั้งในและนอก สนามฟุตบอล คอยสังเกตการณ์อยู่

ว่าด้วยเรื่องความสว่างกับ ขนาดสนามฟุตบอล ของสนามฟุตบอล

ความสว่าง เป็นปัจจัยสำคัญของการเล่นกีฬา กับกีฬาฟุตบอลก็เช่นกัน เพราะมีการฝึกซ้อมและเวลาการแข่งขันไม่แน่นอน สามารถแข่งได้ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงอาจต้องใช้สนามในร่มสำหรับการแข่ง นอกจากการกำหนดมาตรฐานของ ขนาดสนามฟุตบอล แล้ว สมาพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ก็ยังมีการกำหนดมาตรฐานความสว่าง ที่ใช้ใน สนามฟุตบอล เอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้กระทบกับความสามารถการมองเห็นของนักกีฬา ระหว่างการฝึกซ้อมและแข่งจริง รวมถึง ไม่กระทบต่อออกอากาศ เผยแพร่ภาพสดทางโทรทัศน์ เพราะแสงจะมีผลโดยตรงต่อการมองเห็น หากใช้แสงเกินกว่าค่าที่กำหนด อาจทำให้มีการระคายเคืองดวงตาขึ้นเกิด หรือเห็นภาพต่างไปจากความเป็นจริง

ความสว่างสนามบอล

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสว่างของสนามแข่งฟุตบอล

ความสว่างที่เหมาะสมของสนามแข่งฟุตบอลนี้ สมาพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ก็ได้มีการกำหนดมาตรฐานขึ้นมา เช่นเดียวกับ ขนาดสนามฟุตบอล โดยแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อ

  1. ระดับ LUX ระดับ LUX (ลักซ์ = หน่วยวัดความสว่าง) ที่เหมาะสม ในการออกอากาศทางโทรทัศน์ ตามคู่มือความสว่างของฟีฟ่า กำหนดให้ สนามฟุตบอลระดับ V (เช่น ถ่ายทอดสดระดับนานาชาติ) มีระดับมาตรฐานสูงสุด 2,400 LUX ในแนวตั้ว และ 3,500 LUX ในแนวนอน
  2. ความสม่ำเสมอของค่าความสว่าง (LUX) ความสม่ำเสมอของแสง มีตั้งแต่ 0 ถึง 1 ซึ่งฟีฟ่า กำหนดให้ความสม่ำเสมอของแสงนี้มีค่า = 0.7
  3. มุมแสง และ กำลังไฟ สนามฟุตบอลขนาดใหญ่ เสาไฟจะตั้งอยู่ห่างจากสนามแข่ง จึงต้องเลือกมุมของลำแสงให้ดี มีตั้งแต่ 10, 45, 60 และ 90 องศา กำลังไฟจะต้องมีความเหมาะสมกับแสงสว่างในสนาม เช่น สปอร์ตไลท์ LED 500W – สปอร์ตไลท์ LED 1000W เป็นต้น
  4. อุณหภูมิสี โดยทั่วไปแล้วสนามฟุตบอล จะมีความต้องการอุณหภูมิสีที่ 4000K (Kelvin = หน่วยวัดอุณหภูมิสี) ในทุกมุมของสนาม แต่ปกติมักจะใช้อุณหภูมิสีอยู่ที่ 5000K ถึง 6000k เพื่อให้แสงสว่างได้ดีขึ้น เนื่องจากสีเหล่านี้ ได้ถูกพัฒนาไม่ทำให้สายตามัวหรือแสบตาจนเกินไป ทำให้สามารถใช้ในอุณหูมิที่มากขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าในสนามการแข่งขัน แสงสว่างเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งไม่แพ้ ขนาดสนามฟุตบอล และเส้นเขียนบนสนามเลย แสงจะมีผลกระทบต่อการมองเห็น ทั้งจากการชมผ่านจอโทรทัศน์ และการนั่งชมในสนามจริง นอกเหนือจากความสว่างและอุณหภูมิของสีแล้ว แสงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเงา ซึ่งเงาที่เกิดขึ้นจะเบี่ยงเบนความชัดเจนของภาพ อาจทำให้เห็นต่างจากความเป็นจริง จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรฐานของแสงที่ใช้กับ สนามฟุตบอล เอาไว้อย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเพื่อให้การเกิดเงาไม่กระทบต่อภาพที่มองเห็น เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่น และมอบมุมมองที่ดีที่สุดในกับผู้ชม